วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

Team Dragon 4 คุณหมอสุดหล่อกลับมาอีกล่ะ

ครั้งแรกที่ได้ดูซีรีส์ชุดนี้ประมาณปี 2008 เขาบอกว่าเป็นซีรีส์ที่ได้รางวัล ก็เลยหยิบมาดู ตอนหลังก็กลายเป็นแฟนคลับคุณหมอริวสุดหล่อไปเลย
ย้อนไปภาคแรก ตอนนั้นคุณหมอริวไม่ได้เป็นหมอแล้ว เนื่องจากมีเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล เขาเลยมาใช้ชีวิตเสเพล ณ บ้านริมทะเล กินเหล้าเคล้านารีไปวันๆ จนกระทั่งได้พบกับคุณหมอคาโต้ แพทย์หญิงที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป
หลงรักตั้งแต่เห็นก้น เอ๊ย กล้ามแน่นๆ แอร้ยยยยย

และก็ยังคงติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงภาคที่ 4 อันที่จริงนึกว่าหมดภาค 3 ก็ไม่มีแล้วด้วย เพราะมีความรู้สึกว่าภาคที่ 3 เริ่มหมดมุกจะเล่น พอมาภาคที่ 4 ตื่นเต้นเร้าใจมาก (อาจจะเป็นเพราะทิ้งช่วงนานด้วยแหละ)

IRYU Team Medical Dragon 4จากซ้ายไปขวา บน  คุณหมออาราเสะ คุณหมอโนงุจิตัวแสบ คุณหมอซากุไร
กลาง โอคามุระ คุณหมออาซาดะ (ริวจัง)
ล่าง คุณหมอฟุจิโยชิ คุณหมอคาโต้ คุณหมออิจูอิน

ทีมดราก้อนในภาคนี้ยังคงอยู่กันครบ พร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นมิกิจังที่ดูจะหายไปนาน

ประกอบด้วย
คุณหมออาซาดะ ศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจ เมพที่สุดในปฐพี
คุณหมอคาโต้ ศัลยแพทย์หญิง ที่มีความสามารถมาก โดยเฉพาะในด้านงานวิจัย
คุณหมออิจูอิน ศัลยแพทย์ที่อาซาดะฝึกมากับมือ เชี่ยวชาญด้านการใช้สายสวนหลอดเลือดหัวใจ
คุณหมออาราเสะ วิสัญญีแพทย์นับเจ็ด ความสามารถในการใช้ยาสลบและการดูแลผู้ป่วยในระหว่างผ่าตัดเป็นเลิศ  
คุณหมอฟุจิโยชิ อายุรแพทย์ที่คอยดูอาการคนไข้ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด

เปิดตัวที่โอคามุระที่ปรึกษาโรงพยาบาลเดินทางไปสำรวจหาพื้นที่ที่จะสร้างโรงพยาบาลในอินเดีย แน่นอนว่าหมอนี่ต้องสมคบคิดกับคุณหมอทางุจิตัวแสบ (ที่ภาคนี้รู้สึกนิ่งมากขึ้น แต่ยังคงชอบปลามังกรเหมือนเคย)

ส่วนคุณหมอริวก็ยังคงเป็นแพทย์อาสาอยู่ในค่ายแพทย์สำหรับผู้ลี้ภัย เปิดมาก็โชว์ความเมพด้วยการใช้สว่านผ่ากะโหลกเด็ก

คุณหมอริวถูกคุณหมอซากุราอิ อาจารย์ของคุณหมอขอร้องให้มาช่วยงานโรงพยาบาลซากุไรโรงพยาบาลขนาดเล็กในเมืองเล็กๆ ที่กำลังจะปิดตัวลงเนื่องจากมีโรงพยาบาล L&P โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องมือการแพทย์ล้ำสมัยและบุคลากรมากมายมาเปิดตัวเป็นคู่แข่ง

แน่นอนว่าคนไข้ก็ต้องไปรักษาโรงพยาบาลที่ดูเหมือนจะดีกว่า

ทว่าโรงพยาบาลที่เพียบพร้อมหรือจะสู้หมอที่มีหัวใจนักสู้ อาซาดะรวบรวมคนในทีมที่ดูเหมือนว่าจะเบื่อหน่ายการทำงานในโรงพยาบาลเดิมๆ ที่เจอเพื่อนร่วมงานและระบบงานที่ไม่ค่อยดี ให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

การกลับมาของอาซาดะและพรรคพวก เป็นที่หมายตาของโอคามุระและโนงุจิ เขาต้องการให้ทีมดราก้อนมาเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล L&P และไปเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การแพทย์ที่สุดแสนจะทันสมัยที่อินเดีย

โนงุจิและโอคามุระใช้วิธีต่างๆ ที่จะบีบให้คนของทีมดราก้อนมาร่วมงาน เริ่มจากฟุจิโยชิ โดยอาศัยงานวิจัยของฟุจิโยชิและใช้ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาต่อรอง คนถัดมาคือคาโต้ โอคามุระเอางานวิจัยมาชวนให้คาโต้ไปเป็นพวก จากนั้นก็ดึงอาระเสะและอิจูอินเป็นรายต่อมา

ยังคงเป็นอาซาดะที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย แต่เขาจะยืนหยัดได้อย่างไร ในเมื่อเดิมพันนั้นคือชีวิตอาจารย์ที่เขาเคารพที่สุด

อิริยาบทสุดเท่ของคุณหมอหัวใจแกร่ง ฉากที่ขาดไม่ได้คือถอดเสื้อซ้อมผ่าตัดกลางดาดฟ้า
เรื่องนี้ยังคงมีฉากผ่าตัดเลือดสาดอันเป็นเอกลักษณ์ หัวใจเต้นตุบๆ แล้วหมอริวก็ผ่าทั้งหัวใจเต้นๆ นั้นแหละ แล้วก็ฉากที่ขาดไม่ได้ คือฉากซ้อมผ่าตัดของหมอริว ที่ต้องเอารอยแผลเป็นรูปมังกรที่หลังไปรับพลังจากแสงจันทร์ที่ดาดฟ้าก่อนการผ่าตัดจริง สมนาคุณผู้ชมกันไป อีกฉากที่ขาดไม่ได้คือฉากเดินลงบันไดท่ามกลางผู้คนปรบมือหลังจากการผ่าตัดอันยากเย็นเข็ญใจผ่านพ้นไปด้วยดี

ภาคนี้ยังเปิดเผยถึงอดีตของหมอโนงุจิ คนเลือกตัวละครเก่งมาก คนที่เล่นเป็นคุณหมอโนงุจิตอนหนุ่มถ้าแก่มา คงหน้าคล้ายหมอโนงุจิคนปัจจุบัน หน้าตา บุคลิกได้เลย

ตอนที่ชอบที่สุดคือตอนที่เปิดเผยอดีตของคุณหมอซากุไร หมอโนงุจิกล่าวหาว่าซากุไรเป็นหมอเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ แต่อาซาดะก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ จนในที่สุดความจริงอันน่าตกใจก็เปิดเผยขึ้น

ส่วนคำพูดที่ชอบที่สุดในเรื่องมาจากตอนที่ 1 ตอนที่มีการผ่าตัดพร้อมกันสองห้อง อาซาดะผ่าตัดห้อง 1 คาโต้ผ่าตัดห้อง 2 แล้วเกิดไฟดับ ท่ามกลางหิมะแรกของฤดู อาซาดะต้องสั่งปิดฮีทเตอร์ทั้งโรงพยาบาล ปิดเครื่องปอดหัวใจเทียมผ่าตัดแบบ on-beat (ปล่อยให้หัวใจเต้น) สงวนพลังงานจากเครื่องสำรองไฟให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบห้องคาโต้ คาโต้เองก็ผ่าตัดโดยใช้เครื่องหัวใจเทียมที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนที่จะใช้เครื่องปอดและหัวใจเทียมที่ต้องใช้ไฟฟ้า เพื่อสงวนพลังงานเช่นกัน แล้วเธอก็พูดว่า
"ถึงเราจะแยกกันอยู่ แต่เราก็คิดเหมือนกัน นั่นแหละคือทีม"
โดยรวมแล้วชอบภาคนี้มากกว่าภาค 2-3 นะคะ มีการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมันที่มากขึ้นของคุณหมออาซาดะ และทุกคนในทีม ที่จะช่วยกันเอาชนะโรคร้าย และเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด เพื่อนำรอยยิ้มและความสุขคืนกลับมาให้ผู้ป่วยและคนในครอบครัว หลงรัก เอ้ย ชอบมากๆ ค่ะ

สุดท้ายขอขอบคุณ dark-dramas ที่นำละครญี่ปุ่นดีๆ มาใส่ซับไทยให้ดูกันนะคะ