ครั้งหนึ่งพาลูกชาย ตอนนั้นน่าจะอายุราว
6-7 ขวบไปเล่นสวนน้ำบน
หลังคาห้างสรรพสินค้าใหญ่
ปล่อยให้วิ่งเล่นน้ำในสระน้ำตื้นๆ
คอยมองไม่ให้คลาดสายตา...
ตอนแรกลูกชายเล่นอยู่คนเดียว
พอสักพักมีเด็กวัยเดียวกันที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเข้ามาเล่นด้วย
จากหนึ่งคน เป็นสอง เป็นสาม...
ไม่ช้าเป็นกลุ่มใหญ่ ส่งเสียงพูดคุยหัวเราะให้กันสนุกสนาน ...
พากันเล่นโน่น เล่นนี่ด้วยกัน!
ความเป็นเพื่อนของเด็กเกิดง่ายมาก แค่นำตัวเองเข้ามาร่วม กลุ่มก็เปิดรับ
เรียบง่าย ไม่มีอื่นใด...
นึกถึงสมัยเรียนมัธยม วัยที่โลกนี้มีแต่เพื่อนเท่านั้นที่สำคัญที่สุด...
ไม่เรียบง่ายเหมือนสมัยเด็กเล็กๆ
แต่ไม่มีอะไรซับซ้อน ขอเพียงมีเวลาให้กัน
แค่นั้นทุกอย่างก็จบ
อาจจะทะเลาะกันบ้าง แต่เมื่อหายโกรธ...ก็กลับมากอดคอเที่ยวเล่นกันได้เหมือนเดิม
รักกันเหมือนโลกนี้ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่มากกว่าความเป็นเพื่อนอีกแล้ว!!!
ยิ่งโตขึ้นความรู้สึกแบบนี้ยิ่งค่อยๆเลือนหายไป...
เริ่มที่จะเลือกคนที่จะมาเป็นเพื่อนมากขึ้น ตัดขาดเพื่อนเก่าบางคน
มองหาใครที่จะมาเป็นเพื่อนใหม่ มีกรอบที่จะคัดสรรคนมาเป็นเพื่อนมากขึ้น
อย่างน้อย...มีสไตล์ชีวิตคล้ายๆ กัน
มีเรื่องราวที่สนอกสนใจเหมือนๆ กัน
หรือไม่บางคนถึงขั้นต้องมีผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น!!!
โลกของเพื่อนแคบลงเรื่อยๆ
มองคนที่มีสไตล์ชีวิตแตกต่าง หรือไม่มีประโยชน์ร่วม ไร้สาระ
เสียเวลาที่จะคบหา...
โกรธใครสักคนก็หัวปัก หัวปำ ชาตินี้ยากจะคืนดีกันได้
หรือหากเป็นเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน อาจถึงขั้นต้องล้างผลาญแตกหัก
ดับดิ้นกันไปข้างหนึ่ง!!!
ความเป็นเพื่อนที่เรียบง่าย ค่อยๆ จางหายไป...
แต่เมื่อวันที่ชีวิตเริ่ม เข้าสู่วัยชรา
เหมือนความเรียบง่ายนั้นจะกลับมาเอง...
เราจะพบเห็นเสมอว่าคนแก่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แค่นั่งกินกาแฟ
ร้านเดียวกัน มีเรื่องคุยกันได้ครึ่งค่อนวัน เล่าถึงวันเก่าๆ...เรื่องราวของลูกหลานแลกเปลี่ยนกัน...
ในสวนสาธารณะ ที่ไปเดินออกกำลังกาย ผู้สูงอายุต่างพูดคุยกัน
ช่วยเหลือเอื้ออาทรกันโดยไม่ถือชั้นวรรณะ... เอ็งจนข้ารวย
ข้าเคยมีตำแหน่งใหญ่โต ส่วนเอ็งแค่คนหาเช้ากินค่ำ
ไม่เอาอะไรแบบนั้นมาปิดกั้นความสัมพันธุ์อีกแล้ว!!!
เมื่อไม่มีกรอบของชีวิตเสียแล้ว ความเป็นเพื่อนก็เกิดขึ้นง่ายๆ...
อาจจะเป็นความไม่มีกรอบที่เกิดขึ้นจากความไร้เดียงสาของเด็กๆ
หรือกรอบถูกสลัดไปจากความเจนโลกเจนชีวิตของคนแก่...
มิตรภาพที่เรียบๆ ง่ายๆ ไม่มากเรื่องมากความ
เกิดจากชีวิตที่ไม่มีกรอบขังตัวเองไว้ให้ห่างจากคนอื่น
ความสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนร่วมรุ่นได้ เป็นสิ่งที่มีค่า
เพราะเราได้ชีวิตในวัยเด็กที่เรียบง่ายกลับคืนมา...
ในรุ่นเพื่อนสมัยมัธยม บางกลุ่มก็เป็นอย่างนั้น แยกย้ายกันไปสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างชื่อเสียง บางคนสำเร็จ หลายคนล้มเหลว บางคนชีวิตเหมือนวันเก่าๆ!!!
ในงานเลี้ยงรุ่นชั้นมัธยม หากกลุ่มไหน เอาแต่ยกย่องชมเชยเพื่อนที่ได้เป็นใหญ่เป็นโต ร่ำรวย มีหน้ามีตา
ละเลยเพื่อนที่ยังเดินไปไม่ถึงฝัน จะเป็นงานเลี้ยงรุ่นที่เพื่อนมาร่วมน้อยลงไปเรื่อยๆ...
แต่หากกลุ่มไหน ให้เกียรติเพื่อนเสมอกัน เพื่อนผู้ประสบความสำเร็จมีวุฒิภาวะพอ
ที่จะรู้ว่าต้องถอดหมวกแห่งความยิ่งใหญ่ ทิ้งไปก่อนเข้างาน
มาในฐานะ "เพื่อน" ที่เสมอๆ กัน!!!
งานเลี้ยงเพื่อนรุ่นนั้นยิ่งนานยิ่งมีเสน่ห์ เพื่อนที่จะเข้าร่วมยิ่งมากขึ้น
ทำตัวเหมือนเด็กที่ชวนกันวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ
หรือเหมือนผู้เฒ่าผู้แก่ที่ชวนกันคุยเรื่องราวเก่าๆ ในร้านกาแฟได้มากเท่าไร!!!
ถอดกรอบที่ตัวเองตีไว้ เปิดใจรับเพื่อน โดยไม่นึกถึงประโยชน์ตัวเองได้มากเท่าไร!!!
ชีวิตในเวลาที่อยู่กับเพื่อนจะสนุกสนานเฮฮาได้มากเท่านั้น
ชอบบทความนี้อ่ะ และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ มานั่งคิดว่า นานเท่าไหร่แล้ว ที่เราเริ่มจะคัดคนเข้ามาเป็นเพื่อน ตัดเพื่อนเก่าๆ ที่ไม่จำเป็นออก แล้วก็มั่นใจด้วยว่าเพื่อนเก่าบางคนก็ทำกับเราแบบนี้นะ โทรไปไม่รับ ทั้งที่แค่โทรไปเพื่อถามทุกข์สุขธรรมดา แต่ก็อย่างว่า บางคนอาจจะคิดว่าเมื่อสนใจชอบใจไม่เหมือนกัน คงจะเสียเวลาคุย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น